วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

เลโก้ ของเล่นที่ฉลาดที่สุดในโลก

 เลโก้ ของเล่นที่ฉลาดที่สุดในโลก

       เลโก้ (LEGO) เป็นตัวต่อพลาสติกยอดนิยมท่ีมีลักษณะเหมือนก้อนอิฐหลากสีสันและขนาดที่มีปุ่มและร่องให้ประกอบเข้าด้วยกันโดยไม่ใช้กาว เพื่อให้ผู้เล่นนําไปต่อเป็นรูปร่างต่าง ๆ นาๆ

   ถือกําเนิดขึ้นในราวปี 1932 เมื่อ โอเล่ เคิร์ก คริสเตียนเซ่น (Ole Kirk Kristiansen) ช่างไม้และช่างทําเฟอร์นิเจอร์ผู้เชี่ยวชาญจากเมืองบิลุนด์ ประเทศเดนมาร์ก ที่ช่วงนั้นเองได้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจอย่างหนักจากความล้มเหลวในธุรกิจเดิม เขาจึงตัดสินใจเริ่มธุรกิจใหม่ของตัวเอง โดย

ผลิตสินค้าและเครื่องมือเครื่องใช้หลากหลายชนิดออกมาจําหน่าย อย่างเช่น บันไดพับ โต๊ะรองรีดผ้า ม้านั่ง รวมถึงของเล่นไม้ด้วย
   ช่ือของบริษัทถูกต้ังขึ้นมาจากการนําตัวอักษรสองตัวแรกของคําสองคําในภาษาเดนมาร์กอย่าง “LEg” และ “GOdt” (ซึ่งแปลว่า “Play Well” หรือ “เล่นได้เล่นดี”) มาผสมกัน ท้ังยังเป็นคําที่มีความหมายในภาษาละตินว่า “I put together” ซึ่งแปลว่า “ฉันวางเอาไว้ด้วยกัน” ตอน

แรกบริษัทมีพนักงาน 6-7 คน โดยมี กอดต์เฟรด เคิร์ก คริสเตียนเซ่น (Godtfred Kirk Christiansen) ลูกชายของเขา เป็นหนึ่งในพนักงานของบริษัทตั้งแต่อายุเพียงแค่ 12 ปี
   ด้วยความที่เป็นช่างฝีมือ โอเล่ เคิร์ก คริสเตียนเซ่น จึงเป็นคนที่ใส่ใจต่อคุณภาพของสินค้าเป็นอย่างมาก เขามีคติพจน์ประจําใจในการทํางานว่า “Only the best is good enough” (ส่ิงท่ีดีท่ีสุดเท่านั้นถึงจะดีพอ) โดยของเล่นไม้ทุกชิ้นของเขาจะถูกผลิตด้วยความประณีต แข็งแรง

ทนทาน สีที่ใช้ต้องเคลือบถึง 3 ชั้น ซึ่งถือเป็นเรื่องสิ้นเปลืองสําหรับยุคเศรษฐกิจซบเซาในช่วงนั้น
   ว่ากันว่ามีคร้ังหน่ึง กอดต์เฟรด ลูกชายของเขาต้องการประหยัดงบของบริษัท จึงทําการเคลือบสีของ เล่นแค่สองช้ัน เมื่อโอเล่ทราบเรื่องจึงสั่งให้หยุดการส่งสินค้า และให้ลูกชายนํากลับมาเคลือบสีเพิ่มให้ครบและบรรจุใส่กล่องใหม่เพียงคนเดียวเท่าน้ัน ในภายหลังกอดต์เฟรดได้ทําป้าย

ท่ีเขียนคติพจน์ประจําใจของพ่อขึ้นมาเพื่อแขวนในห้องทํางาน และยึดถือมันเป็นแนวทางหลักของตนเองและแนวทางของบริษัทจวบจนทุกวันนี้
   ในปี 1942 โรงงานเลโก้ถูกเผาราบเป็นหน้ากลองจากเหตุการณ์จลาจล แต่โรงงานในส่วนที่ผลิตของเล่นถูกรื้อฟื้นกลับมาใหม่ได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในปี 1946 เลโก้กรุ๊ป เป็นบริษัทแรกในเดนมาร์กท่ีส่ังซื้อเครื่องฉีดพลาสติกสําหรับผลิตของเล่น

หลังจากนั้นไม่กี่ปี บริษัทก็ผลิตของเล่นไม้และพลาสติกหลากหลายแบบราว 200 ชนิด ซึ่งรวมถึงของเล่นตัวต่อที่เป็นต้นแบบของตัวต่อเลโก้ที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน ที่มีชื่อว่า Automatic Binding Bricks และมีวางขายเฉพาะในเดนมาร์กเท่าน้ัน โดยผลิตออกมาสี่สี บริษัทเดินหน้าสู่การ

เป็นบริษัทผู้ผลิตของเล่นเต็มตัว

   ในปี 1950 กอดต์เฟรด เคิร์ก คริสเตียนเซ่น ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองประธานบริษัทในขณะท่ีมีอายุ เพียง 30 ปี หลังจากนั้นหน่ึงปี ของเล่นพลาสติกเพิ่มสัดส่วนเป็นครึ่งหน่ึงของจํานวนการผลิตท้ังหมด
   ในปี 1953 Automatic Binding Bricks มีช่ือใหม่เป็น “LEGO Mursten” (LEGO Bricks – ตัวต่อเลโก้) โดยมีชื่อของบริษัทพิมพ์อยู่ด้านในของตัวต่อทุกตัว ชื่อ LEGO ได้รับการจดทะเบียน เครื่องหมายการค้าอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในวันที่ 1 พฤษภาคม 1954
   กอดต์เฟรดเดินทางท่องเท่ียวและพบตัวแทนจัดซื้อในอังกฤษ พวกเขาคุยเก่ียวกับเรื่องของเล่น ตัวแทนคนน้ันบอกว่าของเล่นส่วนใหญ่ในเวลาน้ันขาดแนวคิดและระบบที่ดี คําพูดนี้ได้บ่มเพาะแรงบันดาลใจเกี่ยวกับการออกแบบของเล่นแนวใหม่ให้กับเขา
   ในปี 1955 หลังจากพัฒนาตัวต่อเลโก้ให้สมบูรณ์แบบข้ึน บริษัทได้ทําการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่ปฏิวัติวงการของเล่นอย่าง LEGO System of Play ที่สร้างระบบใหม่ของการเล่นข้ึนมา ด้วยชุดของเล่นตัวต่อ 28 ชุด ตัวต่อรถแบบต่างๆ 8 แบบ และอุปกรณ์เสริมอย่าง ต้นไม้ เสาไฟ

ปั้มน้ํามัน และป้ายจราจร ฯลฯ โดยเป็นครั้งแรกท่ีผู้เล่นสามารถสร้างสรรค์การเล่นได้ตามจินตนาการโดยไม่ถูกจํากัดให้ทําตามแบบในคู่มือเท่านั้น สินค้าตัวใหม่น้ีถูกเปิดตัวในงานแสดงของเล่นที่ นูเรมเบิร์ก เยอรมนี แต่ไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร อาจจะเพราะความท่ีมันแปลกใหม่เกิน

ไป แต่ก็มีการส่งสินค้าออกไปขายนอกประเทศเป็นครั้งแรก โดยเริ่มต้นท่ีประเทศสวีเดน
   ในปี 1957 ระบบการเช่ือมต่อแบบใหม่ของตัวต่อเลโก้ถูกคิดค้นขึ้น ด้วยการใช้ปุ่มด้านบน และท่อทรงกระบอกด้านล่างซึ่งทําให้ตัวต่อต่อกันได้อย่างมั่นคงขึ้น มันถูกจดสิทธิบัตรและถูกวางขายในอีกหนึ่งปีต่อมา ซึ่งก็คือตัวต่อเลโก้แบบเดียวกับที่เราเห็นกันในปัจจุบันนั่นเอง
   ในปีเดียวกันนั้นเอง ประธานผู้ก่อตั้งบริษัทและบิดาผู้ให้กําเนิดเลโก้อย่าง โอเล่ เคิร์ก คริสเตียนเซ่น ได้ เสียชีวิตลง กอดต์เฟรด เคิร์ก คริสเตียนเซ่น ผู้เป็นบุตรชายจึงต้องขึ้นดํารงตําแหน่งแทน มีการตั้งสาขาของเลโก้ ในหลายประเทศในยุโรป ท้ัง ฝรั่งเศส อังกฤษ เบลเยียม และสวีเดน

ปี 1960 เกิดไฟไหม้ขึ้นที่โกดังเก็บของเล่นไม้ของเลโก้จนได้รับความเสียหายอย่างหนัก ประกอบกับของเล่นพลาสติกได้รับความนิยมกว่ามาก บริษัทจึงตัดสินใจหยุดการผลิตของเล่นไม้และหันมามุ่งผลิตของเล่นพลาสติกเพียงอย่างเดียว
   ในปี 1963 กอดต์เฟรด เคิร์ก คริสเตียนเซ่น นําเสนอบุคลิกสิบประการของเลโก้ คือ 1. ศักยภาพในการเล่นท่ีไม่จํากัด 2. เหมาะสําหรับทุกเพศ 3. เหมาะสําหรับทุกวัย, 4. เล่นได้ตลอดปี 5. เล่นได้อย่างถูกสุขอนามัยและสงบเสงี่ยม 6. เล่นได้ทนทานยาวนาน 7. เสริมสร้างพัฒนาการ

จินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ 8. ย่ิงมีมากย่ิงเปี่ยมประโยชน์ 9. มีแบบพิเศษให้เลือกเล่น 10. เปี่ยมคุณภาพในทุกรายละเอียด
   อีกทั้งยังนําวัสดุชนิดใหม่อย่าง พลาสติก ABS (Acrylnitrile Butadiene Styrene) มาใช้แทนวัสดุเก่า อย่างพลาสติก Cellulose Acetate ในการผลิตตัวต่อเลโก้ ซึ่งวัสดุใหม่นี้มีความทนทาน สีสันสดใส ผลิตได้ไว และมีความแม่นยํา และยังยึดเกาะกันเวลาต่อได้ดีกว่า ตัวต่อเล

โก้กว่า 706 ล้านชิ้นถูก ผลิตออกมาในแต่ละปี และวางขายใน 42 ประเทศทั่วโลก มีชิ้นตัวต่อเลโก้ในแบบที่แตกต่างกัน 218 แบบ (ไม่นับสี) เซ็ตตัวต่อเลโก้ถูกขายไป 18 – 19 ล้านชุดต่อปี
   ในปีถัดมา สวนสนุก LEGOLAND เปิดขึ้นที่เมือง บิลุนด์ในวันที่ 7 มิถุนายน 1968 มันดึงดูดนักท่องเท่ียวกว่าหกหมื่นคนในฤดูกาลแรกท่ีเปิดตัว
   ในปี 1969 เลโก้ออกสินค้าไลน์ใหม่ Lego Duplo ซึ่งเป็นตัวต่อที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติแปดเท่าสําหรับเด็กท่ีมีอายุต่ำกว่า 5 ขวบ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเล็กกลืนตัวต่อลงคอ มาวางขายทั่วโลก
   ปี 1973 โลโก้ใหม่ของเลโก้ถูกนํามาเปลี่ยนแทนโลโก้เดิมของเลโก้ที่มีหลายแบบ สินค้าทุกชนิดของเลโก้จะใช้โลโก้ตัวนี้เพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันจวบจนถึงปัจจุบัน
   ในปี 1977 คิจลด์ เคิร์ก คริสเตียนเซ่น (Kjeld Kirk Kristiansen) ทายาทรุ่นที่สามลูกชายของกอดต์เฟ รดเข้าร่วมทีมบริหารของเลโก้กรุ๊ป อีกสองปีต่อมาเขาได้รับการแต่งต้ังเป็นประธานและซีอีโอของ INTERLEGO A/S เลโก้ออกสินค้าตัวใหม่ LEGO TECHNIC ตัวต่อ

ท่ีมีมอเตอร์และกลไกสําหรับเด็กโต ในปีถัดมาเลโก้ออกโรดโชว์เป็นครั้งแรกในหลาย ๆ ประเทศ และต่อมาก็ได้กลายเป็นงานเลโก้เวิร์ลโชว์ในที่สุด
   ในปี 1986 กอดต์เฟรด เคิร์ก คริสเตียนเซ่น ลาออกจากการเป็นประธานกรรมการของ LEGO System A/S และ LEGO Overseas และให้ คิจลด์ เคิร์ก คริสเตียนเซ่น ขึ้นดํารงตําแหน่งแทน ในปี 1990 LEGO Group เป็นบริษัทผลิตของเล่นเพียงแห่งเดียวในยุโรปท่ี ติด 1

ใน 10 ผู้ผลิตของเล่นที่ใหญ่ที่สุดในโลก กอดต์เฟรด เคิร์ก คริสเตียนเซ่น เสียชีวิตลงในวันท่ี 13 กรกฎาคม 1995
   ในปี ค.ศ. 1996 ได้มีการเปิดเว็บไซต์ www.lego.com และในวันที่ 29 มีนาคม ปีเดียวกัน ได้มีการเปิด LEGOLAND Windsor ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งถือเป็นเลโก้แลนด์แห่งแรกที่อยู่นอกประเทศเดนมาร์ก
   ในปี 1999 ตัวต่อเลโก้ได้รับการเสนอชื่อเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์แห่งศตวรรษ (Products of the Century) โดยนิตยสารฟอร์จูน
   ปี 2003 เลโก้กรุ๊ป ประกาศผลกําไรท่ีมหาศาลถึง 1.4 พันล้าน DKK ในปัจจุบัน เลโก้ติดอยู่ใน 5 อันดับบริษัทผลิตของเล่นที่มียอดขายสูงสุดของโลก และยังคงเป็นบริษัทที่ดําเนินงาน และเป็นเจ้าของโดยครอบครัว เคิร์ก คริสเตียนเซ่นอยู่
   เลโก้ เป็นของเล่นสารพัดประโยชน์ที่ได้รับการยกย่องว่าสร้างเสริมทักษะต่าง ๆ ของเด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี เหมาะสําหรับผู้เล่นทุกเพศทุกวัย (สังเกตได้ว่าเราจะเห็นผู้ใหญ่วัยกลางคนนั่งต่อเลโก้อยู่คนเดียวในบูธเลโก้ตามห้างสรรพสินค้าอยู่บ่อย ๆ) มันช่วยให้เด็กวัยเรียน

รู้ได้พัฒนาความสามารถในการหยิบจับ แยกสี นับเลข และยังช่วยพัฒนาความคิด จินตนาการ และทักษะทางด้านการออกแบบสร้างสรรค์และตรรกะอีกด้วย นอกจากเลโก้จะเป็นตัวต่อที่หยิบเอาคน สัตว์ สิ่งของ ยวดยานพาหนะ อาคารบ้านเรือนหรือ สถาปัตยกรรมต่างๆ ที่อยู่รอบตัวของ

เด็กๆ มาสร้าง เป็นตัวต่อได้แล้ว มันยังนําเอาเรื่องราวจากสื่อต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อในวัฒนธรรมป๊อปอย่าง การ์ตูน หรือภาพยนตร์ มาใช้เป็นธีมหลักอีกด้วย
   หลายปีที่ผ่านมาเลโก้ซื้อลิขสิทธิ์การ์ตูนและ ภาพยนตร์จํานวนมากมายมหาศาลมาทําเป็นธีมของเล่น อาทิเช่น Cars, Harry Potter, Indiana Jones, Lord of the Rings, Pirates of the Caribbean, Prince of Persia, Speed Racer, Spider-Man, SpongeBob SquarePants, Star Wars, Super Heroes, Thomas the Tank Engine, Toy Story, The Lone Ranger และ The Hobbit เป็นต้น
   นอกจากน้ันยังมีหนังท่ีนําเอาคาแรคเตอร์ของเลโก้ ไปเป็นตัวละครเอกในเรื่อง อาทิ LEGO: The Adventures of Clutch Powers (2010) (ดีวีดี) รวมถึงหนัง 3D แอนิเมชั่นฉายโรงอย่าง The Lego Movie (2014) ซึ่งท้ังตัวละครและฉากต่างๆ ล้วนประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนของเลโก้ (ที่ทําจากคอมพิวเตอร์กราฟิค) ทั้งสิ้น และล่าสุดที่เพิ่งเข้าฉายในปีนี้อย่าง The LEGO Batman Movie (2017) นั่นเอง

       เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับเลโก้
ในความเป็นจริง เลโก้ไม่ใช่ผู้คิดค้นระบบตัวต่อแบบ Automatic Binding Bricks ออกมาวางขายเป็นรายแรก หากแต่เป็น Kiddicraft ทําออกมาก่อน และเลโก้นํามันมาพัฒนาต่อยอดอีกทอดนึง
เครื่องจักรของโรงงานเลโก้นั้นแม่นยํามาก โดยท่ีมีความคลาดเคลื่อนต่ำกว่า 0.002 มิลลิเมตรเท่านั้น ในทุก ๆ หนึ่งล้านชิ้น จะมีเพียง 18 ชิ้นเท่าน้ันที่ไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐานโรงงาน
มี 915 ล้านวิธีการที่จะประกอบเลโก้ธรรมดาเพียงแค่หกตัว
ในปี 2013 ชิ้นส่วนตัวต่อเลโก้ห้าหมื่นหกพันล้านชิ้นถูกผลิตออกมา คิดเฉลี่ยออกมาเป็นเลโก้ 80 ช้ินสําหรับมนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ และในแต่ละปีมีเด็กและผู้ใหญ่ที่เล่นตัวต่อเลโก้มากกว่า 400 ล้านคนท่ัวโลก
ถ้าคุณเอาตัวต่อ Lego 40,000 ล้านช้ินมาต่อเรียงกันเป็นเสา มันจะสูงถึงดวงจันทร์ ถ้าเอาชุดตัวต่อ Lego ที่คนซื้อไปใน 1 ปีมาวางซ้อนกันไว้ มันจะเต็มสนามฟุตบอลขนาดใหญ่และสูงขึ้นไปเกือบ 78 เมตรหรือพอ ๆ กับตึก 26 ชั้น หรือถ้าเอาตัวต่อ Lego ที่มีคนซื้อใน 1 ปีนั้นมาต่อ

เรียงยาวๆ มันจะวนรอบโลก ได้มากกว่า 5 รอบ
โดยประมาณแล้ว จะมีคนซื้อชุดตัวต่อ Lego 7 ชุดในทุกๆ วินาที
คุณสามารถหาซื้อ Lego แทบจะท่ีไหนก็ได้ในโลก เพราะ Lego มีจําหน่ายอยู่ในมากกว่า 130 ประเทศ
เด็กๆทุกคนท่ัวโลกใช้เวลาเล่น Lego ใน 1 ปีรวมกัน ประมาณ 5 พันล้านชั่วโมง
ไม่มีเลโก้เซ็ตไหนที่มีธีมเกี่ยวกับเรื่องทางการทหาร เหตุเพราะ โอเล่ เคิร์ก คริสเตียนเซ่น ไม่อยากให้เด็ก ๆ มีความสนใจในสงคราม เดิมทีไม่มีตัวต่อเลโก้แบบไหนที่ดูเหมือนอาวุธสงคราม อย่างเช่น ปืน ด้วยซ้ำ แต่ก็มีการเปลี่ยนนโยบายในภายหลัง เนื่องจากมีข้อตกลงในสัญญาในการ

นําภาพยนตร์มาใช้เป็นธีมหลัก แต่ก็มีกําหนดอย่างชัดเจนว่าให้อยู่ในรูปแบบของแฟนตาซี และจินตนาการเท่านั้น
ตั้งแต่ปี 1981 โฆษณาของเลโก้สะท้อนถึงแนวคิดการไม่แบ่งเพศของเด็ก แต่ในปี 2012 ท่ีผ่านมา เลโก้ออกสินค้าชิ้นใหม่ที่ใช้ช่ือว่า LEGO Friends ผลิตตุ๊กตาและข้าวของต่างๆ ในโทนสีชมพู เน้นให้เด็กเล่นโดยใช้ชีวิตแบบผู้หญิง ทําให้กลุ่มผู้ปกครองกลุ่มหน่ึงถึงกับล่ารายช่ือร้อง

เรียนให้เลโก้พิจารณา สินค้าตัวนี้ใหม่ เพราะที่ผ่านมาเลโก้สร้างความสบายใจให้พ่อแม่ท่ีซื้อเพราะเน้นให้เด็กคิดเล่นอย่างสร้างสรรค์โดยไม่มีการแบ่งแยก แต่เมื่อมาแตกไลน์สินค้าเช่นนี้ ก็เท่ากับเป็นการตอกย้ำค่านิยมความเป็นหญิงเป็นชายให้กับของเล่นตัวต่อเด็กที่ควรจะไร้เพศ นอก

จากบอกว่า นี่คือของสําหรับเด็กผู้หญิงเท่าน้ันแล้ว หากมีเด็กผู้ชายอยากเล่น LEGO Friends ก็อาจจะเกิดประเด็นอีก แต่ปรากฏว่า ยอดขาย LEGO Friends กลับพุ่งพรวดเกินความคาดหมาย จนผู้ผลิตยังแปลกใจทั้งท่ีโดนทักท้วงและต่อว่าขนาดหนัก
   ในบทหนึ่งของหนังสือ โลกของโซฟี (Sophie’s World) เขียนโดย โยสไตน์ กอร์เดอร์ (Jostein Gaarder) กล่าวเอาไว้ว่า เลโก้เป็นของเล่นที่ฉลาดท่ีสุดในโลก หนังสือกล่าวเปรียบเทียบเลโก้ว่า “มีคุณสมบัติคล้ายกับอะตอมในปรัชญาของเดโมคริตุส และนี่คือเหตุผลที่ทําให้มันเป็น

ของเล่นที่สนุก เพราะประการแรกและประการท่ีสําคัญที่สุด ตัวเลโก้ไม่สามารถแบ่งออกเป็นช้ินเล็ก ๆ ได้อีก มันมีรูปร่างและขนาดต่าง ๆ กัน ทนทาน ไม่แตกหัก สีสันสดใสไม่ซีดจาง แม้จะผ่านไปหลายสิบปี มันสามารถประกอบเป็นอะไรก็ได้ หลังจากนั้นก็สามารถถอดเป็นช้ิน ๆ และ

ประกอบเป็นอย่างอื่นได้อีก การที่เราสามารถเล่น ได้ครั้งแล้วครั้งเล่าทําให้เลโก้เป็นของเล่นยอดนิยม ตัวเลโก้ตัวหน่ึงในวันนี้อาจเป็นส่วนหน่ึงของรถบรรทุก พอวันต่อมาก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของปราสาท เราอาจพูดได้ว่าตัวเลโก้มีความเป็น “อมตะ” ด้วยเหตุนี้ เด็ก ๆ ในวันนี้จึงสามารถเล่น

ตัวต่อที่พ่อ แม่ของแกเคยเล่นมาแล้วต้ังแต่คร้ังยังเป็นเด็กได้ เราจะอยากได้อะไรมากกว่าน้ีจากของเล่นอย่างหนึ่งล่ะ?

#GTB #goodtoysbaby #lego #toy #play #LEg #GOdt #เสริมจินตนาการ #automaticbindingbricks #LEGObricks #LEGOsystemofPlay #เสริมพัฒนาการ #คิดสร้างสรรค์



ขอบคุณ
ที่มา: http://www.wurkon.com/full/researchs/lego


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น